Please Follow Me

Isan must go - Nakorn Phanom / Mukdaharn / Sakon Nakorn

วันหยุดสุดขีด ณ นครพนม-มุกดาหาร-สกลนคร Holiday Trip @Isan by Pulsmo (IG: Pulsmo___)

วันนี้ผมจะพาทุกคนเหินฟ้าไปยัง ดินแดนที่มีมนต์เสน่ห์อย่างมากที่อยู่ใกล้ริมแม่น้ำโขง นั่นก็คือ จังหวัดนครพนม, มุกดาหาร และสกลนคร ...พร้อมแล้วเราไปเที่ยวพร้อมๆกันเลย


เราเลือกเดินทางทั้งขาไปและขากลับโดยเลือกสายการบิน Air Asia ใช้ระยะเวลาเดินทางก็ไม่นานเพียงแค่ 1 ชั่วโมงก็สามารถพาเราเหินฟ้าจากดอนเมืองมาถึงนครพนมได้อย่างรวงดเร็ว


บรรยากาศก่อนเครื่อง landing (ใครว่าอีสานแล้ง ถ้าไม่บอกนึกว่าบินมาทางเหนือ)

จุดหมายปลาทางแรก "พญาศรีสัตตนาคราช" ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.นครพนม ริมฝั่งแม่น้ำโขง เป็นองค์พญานาคทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสานอีกด้วย





พญาศรีสัตตนาคราช มีความเด่นสง่าเพราะมี 7 เศียร ลำตัวเดียว ถือได้ว่าเป็น ตระกูลพญานาค ที่สืบสายพันธุ์มาแต่ครั้งพุทธกาล มีความใกล้ชิดพระพุทธองค์ และพระพุทธศาสนา จนอาจถือว่าเป็นต้นตระกูลแห่งพญานาคทั้งหลายทั้งปวงเลยทีเดียว


ฝั่งตรงข้ามของลานพญาศรีสัตตนาคราช จะเป็นประเทศลาวมีความอุดมสมบูรณ์และดูร่มรื่นมากๆเลย



ฝั่งตรงข้ามของถนนจะมีคาเฟ่ชื่อ Cafe le landmark ด้วยไว้สำหรับคลายร้อน ที่นี่มีเมนูเครื่องดื่มมากมายให้ได้เลือกสรรกันตามใจชอบเลย


สถานที่ต่อมาเราก็มายัง "พระธาตุพนม" เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของปีวอกและผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ พระธาตุพนมไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครพนม เท่านั้นยังเป็นที่ เคารพของ ชาวไทยภาคอื่น ๆ และชาวลาวอีกด้วย ว่ากันว่าถ้าใครได้มานมัสการพระธาตุครบ 7 ครั้ง จะถือว่าเป็น “ลูกพระธาตุ” เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและจะมีความเจริญรุ่งเรือง หรือแม้แต่การได้มากราบพระธาตุพนม 1 ครั้ง ก็ถือ เป็นมงคลแก่ชีวิตแล้ว



ปัจจุบันองค์พระธาตุ มีฐานกว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.60 เมตร เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมสูงแลดูสง่างาม งานนมัสการองค์พระธาตุ เริ่มตั้งแต่วันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี


เช้าวันถัดมาเราเลือกเดินทางไปยังจังหวัดสกลนครกัน โดยจุดหมายแรกนั้นคือ "พญาเต่างอย" เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดโด่งดังในหมู่นักเสี่ยงโชคและผู้ที่มีจิตศรัทธามากที่สุดในขณะนี้เลยก็ว่าได้ หลังจากผู้ที่เดินทางมาสักการะบูชาพญาเต่างอยแล้วก็มักจะได้รับโชคกลับบ้านไปด้วยเช่นกัน

ก่อนที่จะถึงพญาเต่างอย 2 ข้างทางก็จะมีของฝากและวัตถุบูชาให้เช่ากันกลับไปด้วย


พญาเต่างอยที่เลื่องชื่อ




ตอนแรกเราตั้งใจจะไป "วัดถ้ำผาแด่น" กันแต่เนื่องจากช่วงเทศกาลมีคนไปเยอะมากเราเลยเปลี่ยนจุดหมายปลางทางเป็น "ถ้ำภูผายล" แทน

ถ้ำภูผายล เป็น 1 ใน 5 ของโครงการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ วันที่ 5 ธันวาคม 2530 ระหว่างเราเดินขึ้นถ้ำ เราก็สามารถแวะถ่ายรูป ชมวิวภูเขาสูงๆ ได้เลย อยากจะบอกว่าเดินจนเหนื่อยขาลากเลยแหละ กว่าจะถึงตัวถ้ำ 





พอถึงบนถ้ำแล้วก็หายเหนื่อย เพราะว่าเราจะได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น นั่นก็คือ "ภาพเขียนประวัติศาสต์ที่มีมานานมากๆ" เป็นภาพที่ชาวบ้านเขาเชื่อกันว่า คนในสมัยก่อนได้เขียนเอาไว้ มีหลายภาพเลย เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีภาพอะไรบ้าง มันเยอะมาก

หลังจากเดินมาสักระยะจะเจอกับศาลาเล็กๆที่มีทางเข้าถ้ำและภาพเขียนประวัติศาสตร์อยู่

บนศาลาจะมีพระพุทธรูปให้เราสักการะบูชาด้วย


ปากทางเข้าถ้ำภูผายล โดยทางซ้ายจะมีภาพเขียนประวัติศาสตร์ (ปล. ห้ามเข้าไปนะ)

ภาพบรรยากาศจากจุดชมวิว สวยงาม คุ้มกับเหงื่อที่เสียไปมาก


วันถัดมา เราได้ไปกราบไหว้ "ศาลหลักเมืองมุกดาหาร" ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสองนางสถิตย์ หน้าศาลากลางจังหวัด เป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดมุกดาหาร  ตัวศาลมีลักษณะเป็นแบบทรงไทยจตุรมุข มีมุขยื่นออกมา  บริเวณรอบตัวอาคารเป็นระเบียงยกพื้น  ส่วนเสาหลักเมือง มีลักษณะเป็นเสากลมเกลี้ยงยอดทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ ลงรักปิดทอง มีพิธีบวงสรวงในวันที่ 9 มกราคม ตรงกับวัน งานกาชาดและงานประจำปีจังหวัดมุกดาหาร



สถานที่ถัดมา คือ "สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2" ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เป็นสะพานที่เชื่อมต่อแขวงสะหวันนะเขด ในประเทศลาว กับจังหวัดมุกดาหาร มีความยาวทั้งหมด 1,600 เมตร มีความกว้าง 12เมตร บริเวณด้านล่างสะพานมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นสะพานทอด มีร้านค้าอาหารหมูจุ่ม หมูกระทะ ส้มตำ และที่นั่งริมน้ำโขง นั่งชิลทานอาหารในช่วงเย็น รวมถึงมีแลนดมาร์คที่โดดเด่น คือ รูปปั้นพญานาค





"ศาลปู่พญานาค" ที่ใต้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 จะมีนักท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.มุกดาหาร และ จ.ใกล้เคียง รวมถึงชาว สปป.ลาว เดินทางมากราบไหว้ขอพรพญานาค องค์ปู่อนันตนาคราช และ องค์ย่านาคน้อย โดยนำพวงมาลัยดอกดาวเรือง มาบูชากราบไหว้ ตั้งจิตอธิษฐานขอพรพญานาค และนำพานดอกบัว นำไปลอยในแม่น้ำโขง เพื่อเป็นพุทธบูชาและเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวด้วย




จุดหมายปลายทางสุดท้ายของทริปนี้ก็คือ "วัดมโนภิรมย์" สิ่งสำคัญภายในวัดคือ สิม ซึ่งได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อ พ.ศ.2525 และได้รับการบูรณะครั้งใหญ่เมื่อ พ.ศ.2543 ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นนาคปรกปางมารวิชัย รูปแบบอาคารเป็นศิลปะลาวแบบเวียงจันทน์ที่ผสมผสานศิลปะญวน






#pulsmomemories #pulsmophotos
#เที่ยวอีสาน #เที่ยวนครพนม #เที่ยวมุกดาหาร #เที่ยวสกลนคร